วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


บทที่2

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นมาของมะละกอ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carica papaya Linn.

ชื่อสามัญ : Papaya

ชื่อท้องถิ่น : มะก๊วยเต็ด ก๊วยเท็ด ลอกอ แตงตต้น หมักหุ่ง

ลักษณะทั่วไป:ไม้ ล้มลุกอายุสั้น ระบบรากดีทั้งระบบรากแก้วและรากแขนง อวบน้ำลำต้นกลวงและไม่ค่อแตกกิ่งก้านสาขาเหมือนไม้ชนิดอื่น ดอกเจริญออกมาตามซอกใบเหนือก้าน ผลมีรูปร่างแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ

การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ : (Scientific classification)

อาณาจักร : Plantea

ส่วน :Magnoliophyta

ชั้น :Magnoliopsida

อันดับ :Brassicales

วงศ์:CARECACEAE

สกุล:Carica

สปีชีส์ :C.papaya

วิสัยพืช (Plant habit) : ไม้ล้มลุก

ชนิดของใบ (Leaf type) :ใบเดี่ยว (simple)คือใบที่มีแผ่นใบเพียงแผ่นเดียวบนก้านใบที่แตกออกจากกิ่งหรือลำต้น
  
มะละกอ
          เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง สูงประมาณ 5-10 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง ถูกนำเข้าสู่ประเทศไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วเนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม นิยมนำมารับประทานทั้งสดและนำไปปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ ฯลฯ หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็ได้
ลักษณะทั่วไป
          มะละกอเป็นไม้ล้มลุก (บางครั้งอาจเข้าใจผิดว่าเป็นไม้ยืนต้น) ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว 5-9 แฉก เกาะกลุ่มอยู่ด้านบนสุดของลำต้น ภายในก้านใบและใบมียางเหนียวสีขาวอยู่ มะละกอบางต้นอาจมีดอกเพียงเพศเดียว แต่บางต้นอาจมีดอกได้ทั้งสองเพศก็ได้ ผลเป็นรูปรี อาจหนักได้ถึง 9 กิโลกรัม ผลดิบมีสีเขียว และมีน้ำยางสีขาวสะสมอยู่ที่เปลือก ส่วนผลสุก เนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม มีเมล็ดสีดำเล็ก ๆ อยู่ภายในกินไม่ได้
ประโยชน์
          นอกจากการนำมะละกอไปรับประทานสด ๆ แล้ว เรายังสามารถนำไปปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ แกงส้ม ฯลฯ หรือนำไปหมักเนื้อให้นุ่มได้อีกด้วย เพราะในมะละกอมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งเรียกว่า พาเพน (Papain) ซึ่งสามารถนำเอนไซม์ชนิดนี้ไปใส่ในผงหมักเนื้อสำเร็จรูป บางครั้งนำไปทำเป็นยาช่วยย่อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อยก็ได้
สายพันธุ์มะละกอ
          1. พันธุ์แขกนวล นิยมปลูกเพื่อขายผลดิบลักษณะผลยาวผิวผลเรียบสีเขียวอ่อน นวล เนื้อแน่นกรอบเหมาะสำหรับทำส้มตำ ผลสุกเนื้อสีส้มแดง

          2. พันธุ์แขกดำ เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ขายได้ทั้งผลดิบและผลสุก ผลสุกมีรสหวานมีเม็ดน้อยเนื้อสีส้มแดง ผลดิบเนื้อแน่นกรอบใช้ทำส้มตำได้ดี

          3. พันธุ์แขกดำท่าพระ มีลักษณะดีคือมีความต้านทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนได้ในระดับหนึ่ง ต้นเตีย น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5 กิโลกรัม/ผล เนื้อหนา ผลสุกเนื้อสีเหลืองอมส้ม

          4. พันธุ์ฮอลแลนด์ เหมาะสำหรับขายผลสุก ผลรูปทรงกระบอก น้ำหนักผลประมาณ 8 ขีด ถึง 1.5 กิโลกรัม เนื้อสีส้มแดง เนื้อหนาและแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ความหวานสูง

          5. พันธุ์ปากช่อง เหมาะสำหรับขายผลสุก เป็นพันธ์ที่สถานีวิจัยปากช่อง ทำการผสมและปรับปรุงพันธุ์จากมะละกอพันธุ์ซันไรส์โซโล ของประเทศใต้หวัน ขนาดผลประมาณ3-5ขีด เนื้อสีส้ม แข็งกรอบ รสหวานมีเปอร์เซนต์น้ำตาลสูง

          6. พันธุ์เรดเลดี้ เป็นพันธุ์ที่ติดผลดก น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัม เหมาะสำหรับขายผลสุก เนื้อสีแดง หวานกรอบ กลิ่นหอม




โครงสร้างของ"มะละกอ"



      



การเรียงตัวของใบ (Leaf Arrangement) :การเรียงใบแบบตรงข้าม(opposite)การเรียงใบสองใบที่ออกจากข้อของลำต้นหรือกิ่งเป็นคู่ๆทำมุมประมาณ 180 องศา

รูปร่างของใบ (Leaf shape) :รูปแบบแฉกแบบนิ้วมือ(palmalifid)แผ่นใบที่หยักคล้ายนิ้วมือ โดยหยักลึกประมาณครึ่งหนึ่งของระยะจากขอบใบถึงเส้นกลางใบ



ขอบใบ (Leaf margin): พู(lobed)ขอบ ใบเว้าเป็นพู โดยเว้าเข้าประมาณครึ่งหนึ่งของระยะจากขอบใบถึงกลาง ใบ                                                                        

       

                       usb microscop X 50

  รูปร่างฐานใบ (Leaf base) :รูปโล่(peltate)ฐานใบที่มีก้านใบติดตรงกลางแผ่นใบ









)ปลายใบ (Leaf Apex) :ยาวคล้ายหาง ปลายใบเรียวคอดเป็นหางยาว

เมื่อทำการศึกษาโครงสร้างภายในของลำต้น รากและใบ มีลักษณะเป็นดังนี้



   ลำต้นมะละกอตัดตามขวาง usb microscop X 230  







 รากมะละกอตัดตามขวาง usb microscop X 50



 รากมะละกอตัดตามขวาง usb microscop X 230  





 ใบมะละกอตัดตามขวาง usb microscop X 230           

 
 
 
ประโยชน์ : -รากนำมาต้มแก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย ช่วยขับปัสสาวะ

-ใบสด ย่างไฟแล้วบด นำไปประกบบริเวณที่ปวด และแก้ปวดไขข้อ

-เมล็ด ช่วยดับกระหาย และมีฤทธิ์ช่วยขับพยาธิ

-น้ำดอกมะละกอ ต้มช่วยขับประจำเดือนสตรี

-ยาง ช่วยย่อยสลายโปรตีน ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

-ผลทั้งดิบและสุก เป็นอาหาร ช่วยระบาย ผลดิบมีน้ำย่อยช่วยให้เนื้อสัตว์เปื่อยยุ่ย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น